ร้านขายเหล็ก ร้านขายเหล็กแผ่น ร้านขายเหล็กรูปพรรณ โรงงานผลิตเหล็กโครงสร้าง บริการตัดเหล็กตามขนาด  บริการเจาะรูเหล็กแผ่นตามขนาด จำหน่ายเหล็กกัลวาไนซ์ และดำ ร้านขายเหล็กโครงสร้าง จำหน่ายเหล็กแผ่นตัดตามขนาด จำหน่ายเหล็กแผ่นดำ ขาว ซิ้งค์
Slide

บริษัท หงยุ่นต๊ะ เหล็กรูปพรรณ จำกัด

จำหน่ายเหล็ก เหล็กแผ่นดำ ขาว เทา เหล็กโครงสร้าง เหล็กแป๊บเหลี่ยม เหล็กแป๊บแบนดำ กัลวาไนซ์ เหล็กตะแกรงฉีก พุกเหล็ก สีรองพื้นกันสนิม

เกรด A B บริการตัดเหล็กและเจาะรูตามขนาด ตามความประสงค์ของลูกค้าเพื่อการนำไปใช้ประโยชน์จริง และมีบริการจัดส่งคิดตามระยะทาง และจัดส่งฟรี บริษัททำธุรกิจด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ ซื่อสัตย์ และให้บริการสินค้าที่มีคุณภาพ จึงทำให้ได้รับความไว้วางใจและความเชื่อมั่นในสินค้า และบริการของทางบริษัทจากลูกค้าเป็นอย่างสูง

บริการของเรา

ผู้ค้าส่งเหล็กรายใหญ่ในย่านพระราม2

บริษัท หงยุ่นต๊ะ เหล็กรูปพรรณ จำกัด ผู้ค้าส่งเหล็กรายใหญ่ในย่านพระราม2 ดำเนินธุรกิจจำหน่ายเหล็กรูปพรรณทุกประเภท เหล็กเส้น เหล็กแผ่น เหล็กท่อ เหล็กโครงสร้าง เหล็กรางน้ำ รวมถึงวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง พุกเหล็ก ตะแกรงเหล็กฉีก สีป้องกันสนิม มีบริการตัดเหล็กตามขนาดที่ลูกค้าต้องการ จากเหล็กม้วนคุณภาพดี ได้มาตรฐาน บริการจัดส่งสินค้าถึงที่ รวดเร็ว ปลอดภัยด้วยมาตรการแพคเหล็กที่เรียบร้อย

บทความ

เหล็กเส้น เป็นวัสดุพื้นฐานที่มีความสำคัญอย่างมากในงานก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบ้าน อาคาร โรงงาน หรือโครงสร้างขนาดใหญ่ เพราะเหล็กเส้นทำหน้าที่เสริมความแข็งแรงให้คอนกรีต ป้องกันการแตกร้าว  และช่วยให้โครงสร้างมีความทนทานต่อแรงต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น การเลือกเหล็กเส้นจึงไม่ใช่เพียงแค่ดูราคา หรือขนาดเท่านั้น แต่ต้องเข้าใจคุณสมบัติ ประเภท มาตรฐาน และการใช้งานที่เหมาะสมด้วย บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจ วิธีเลือกเหล็กเส้นแบบมืออาชีพ เพื่อให้เหมาะกับลักษณะงานก่อสร้าง ช่วยลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย และประหยัดต้นทุนได้ในระยะยาว

 

เหล็กเส้นคืออะไร? ทำไมต้องใช้ในงานก่อสร้าง

เหล็กเส้น คือ เหล็กที่ผ่านกระบวนการรีดร้อนจนได้แท่งเหล็กยาวที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางแตกต่างกันไป เหล็กชนิดนี้จะถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบหลักของโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก เพื่อให้คอนกรีตซึ่งมีคุณสมบัติแข็งแต่เปราะ สามารถรับแรงดึง แรงอัด และแรงบิดได้ดียิ่งขึ้น หากไม่มีเหล็กเส้น คอนกรีตเพียงอย่างเดียวจะรับแรงดึงได้ไม่มาก และอาจเกิดการแตกร้าวได้ง่าย เหล็กเส้นจึงทำหน้าที่เหมือนโครงกระดูกของอาคาร ที่ช่วยให้โครงสร้างมีความมั่นคง แข็งแรง และมีอายุการใช้งานยาวนาน

 

ประเภทของเหล็กเส้นที่ใช้ในงานก่อสร้าง

  1. เหล็กเส้นกลม (Round Bar หรือ RB)
    เหล็กเส้นกลมมีลักษณะผิวเรียบ และหน้าตัดเป็นรูปทรงกลม ทำให้ดัดงอได้ง่าย เหมาะกับงานโครงสร้างที่รับแรงไม่มาก เช่น ปลอกเสา ปลอกคาน หรือโครงสร้างขนาดเล็กถึงกลาง เหล็กชนิดนี้มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 6 – 25 มิลลิเมตร ราคาประหยัด และหาได้ง่าย ทำให้นิยมใช้ในงานก่อสร้างทั่วไปที่ไม่ต้องการแรงดึงสูง
  1. เหล็กเส้นข้ออ้อย (Deformed Bar หรือ DB)
    เหล็กข้ออ้อยมีลักษณะเป็นเส้นกลมแต่มีบั้ง หรือข้อปล้องตลอดความยาว เพื่อเพิ่มแรงยึดเกาะกับคอนกรีต ทำให้โครงสร้างสามารถรับแรงดึงได้ดี เหมาะกับงานโครงสร้างที่ต้องการความแข็งแรงสูง เช่น อาคารสูง สะพาน หรือถนน ขนาดที่นิยมใช้มีตั้งแต่ 10 – 40 มิลลิเมตร และเป็นเหล็กที่มืออาชีพเลือกใช้ในงานโครงสร้างหลัก

 

เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญในการเลือกเหล็กเส้น

1. ตรวจสอบฉลากและเครื่องหมายมาตรฐาน

ควรตรวจสอบฉลาก หรือป้ายติดกับเหล็กเส้นให้มีข้อมูลครบถ้วน เช่น ยี่ห้อ ขนาด และต้องมีเครื่องหมายรับรองมาตรฐาน มอก. (มาตรฐานอุตสาหกรรม) อย่างชัดเจน หากป้ายฉลากหลุด ให้ดูตัวอักษรนูนบนเนื้อเหล็กซึ่งมักจะระบุชื่อผู้ผลิต ชนิด และขนาดเช่นกัน

2. เลือกขนาดและเส้นผ่านศูนย์กลาง

ควรยึดตามแบบก่อสร้างหรือคำแนะนำของวิศวกร สำหรับเหล็กเส้นแต่ละชนิดมีการใช้งานต่างกัน เหล็กข้ออ้อย (มีบั้งรอบเส้น) แข็งแรงสูง จึงนิยมใช้กับโครงสร้างหลักที่รับน้ำหนักมาก เช่น ฐานราก เสา หรือคาน ส่วนเหล็กเส้นกลม (ผิวเรียบ) เหมาะกับงานรองรับแรงน้อย เช่น ปูพื้นถนนทั่วไป อย่าเปลี่ยนชนิดหรือเกรดเหล็กเอง เพราะแต่ละแบบออกแบบมาเพื่อรับแรงแตกต่างกัน

3. ตรวจสอบสภาพเหล็กก่อนใช้งาน

ก่อนนำไปก่อสร้าง ควรตรวจสอบผิวเหล็กว่าปราศจากสนิมลึก ผิวเรียบ และไม่มีรอยบุบหรือบิดงอ เหล็กที่เก็บไว้นาน หรือโดนความชื้นอาจเสื่อมคุณภาพ สามารถทดสอบง่าย ๆ ด้วยการดัดปลายเหล็กดู หากคุณภาพดีจะไม่ปริแตก หรือหักง่าย

4. คำนึงถึงราคากับคุณภาพ

เปรียบเทียบราคาเหล็กจากหลายแหล่ง หลีกเลี่ยงการซื้อเหล็กเส้นที่ราคาถูกผิดปกติ เพราะเหล็กที่ราคาต่ำมากอาจมีคุณภาพต่ำ และไม่ปลอดภัย การเลือกเหล็กที่มีคุณภาพดีแม้จะราคาแพงกว่าเล็กน้อย จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาว เพราะลดความเสี่ยงงานซ่อมแซม หรือเปลี่ยนโครงสร้างภายหลังได้

5. เลือกผู้ผลิตหรือผู้จำหน่ายที่เชื่อถือได้

ควรเลือกซื้อจากโรงงานที่มีใบรับรองมาตรฐาน มอก. ถูกต้อง และมีชื่อเสียงในตลาด ผู้ขายที่ดีมักมีประวัติการส่งของตรงเวลา และให้บริการหลังการขาย สามารถให้คำแนะนำ และข้อมูลที่ถูกต้องได้

6. พิจารณาสภาพแวดล้อมก่อนใช้เหล็กเส้น

หากงานก่อสร้างอยู่ในพื้นที่ชื้นมาก หรือใกล้ทะเล ควรเลือกใช้เหล็กเส้นที่เคลือบป้องกันสนิมพิเศษเพิ่ม เพื่อยืดอายุ และเพิ่มความปลอดภัยให้โครงสร้าง นอกจากนี้การเก็บรักษาเหล็กเส้นให้ห่างน้ำ และความชื้น เช่น วางเหล็กบนแท่นรองให้พ้นพื้นเปียก และคลุมด้วยผ้าใบที่ระบายอากาศได้ จะช่วยลดการเกิดสนิมก่อนใช้งาน

7.      ขอใบรับรองคุณภาพ (COA) และผลทดสอบจากผู้ผลิต

ก่อนรับเหล็กทุกครั้ง ควรขอใบ Certificate of Analysis ที่ระบุชื่อผู้ผลิต มาตรฐาน มอก. และผลทดสอบเชิงกล (เช่น กำลังรับแรง) ของเหล็กเส้น ให้ตรวจสอบว่าเลข Heat No. บนฉลากเหล็กตรงกับเลขในใบรับรอง เพื่อยืนยันว่าเหล็กล็อตนั้นเป็นไปตามเกรดที่ระบุ ช่วยป้องกันการได้เหล็กเส้นที่มีคุณภาพต่ำ หรือไม่ตรงสเปคมาใช้ในโครงสร้าง

 

สรุป: เลือกเหล็กเส้นอย่างมืออาชีพ เพื่อความปลอดภัยและคุ้มค่า

การเลือกเหล็กเส้นให้เหมาะกับงานก่อสร้างคือขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเหล็กเป็นหัวใจของโครงสร้างทั้งหมด หากเลือกผิด หรือใช้เหล็กไม่ได้มาตรฐาน อาจเกิดปัญหาด้านความปลอดภัย และทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในอนาคต ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อ ควรพิจารณาให้รอบด้าน ทั้งเรื่องประเภท ขนาด มาตรฐาน มอก. ความน่าเชื่อถือของผู้ขาย และวิธีเก็บรักษา เพื่อให้ได้เหล็กที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์งานก่อสร้าง และมีความทนทานในระยะยาว

สนใจสั่งซื้อเหล็ก ติดต่อสอบถามราคา หรือติดต่องานรับเหมาโครงสร้าง ได้ที่ บริษัท หงยุ่นต๊ะ เหล็กรูปพรรณ จำกัด ร้านขายเหล็กพระรามสอง หรือ

โทรศัพท์: 02 898 6638, 084 694 9989

Facebook: HTST จำหน่ายเหล็ก

Line: htst88

Email: hongjuntar@gmail.com

 

 

คำถามที่พบบ่อย

  1. เหล็กเส้นมีกี่ประเภท?
    หลัก ๆ แล้วเหล็กเส้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ เหล็กเส้นกลม (Round Bar: RB) และเหล็กข้ออ้อย (Deformed Bar: DB) ซึ่งแตกต่างกันด้านลักษณะผิว และการใช้งาน
  1. จะรู้ได้อย่างไรว่าเหล็กเส้นเป็นของแท้มาตรฐาน มอก.?
    สามารถตรวจสอบจากสัญลักษณ์ มอก. ที่ประทับอยู่บนเนื้อเหล็ก พร้อมรหัสผู้ผลิต หรือสอบถามใบรับรองจากร้านค้า และโรงงานผู้จำหน่าย
  1. ขนาดของเหล็กเส้นที่นิยมใช้มีอะไรบ้าง?
    โดยทั่วไป เหล็กเส้นกลมจะมีขนาด 6–25 มิลลิเมตร ส่วนเหล็กข้ออ้อยจะมีขนาดตั้งแต่ 10–40 มิลลิเมตร ขึ้นอยู่กับประเภทงาน และการออกแบบโครงสร้าง
  1. การเก็บรักษาเหล็กเส้นควรทำอย่างไร?
    ควรเก็บในที่ร่ม ห่างจากความชื้นและน้ำฝน วางบนพื้นไม้หรือคอนกรีตเพื่อป้องกันการสัมผัสดินโดยตรง และควรจัดเรียงให้เป็นระเบียบเพื่อสะดวกต่อการใช้งาน

ร้านขายเหล็กรูปพรรณ ถือเป็นแหล่งสำคัญในการจัดหาวัสดุก่อสร้างที่ช่างมืออาชีพไว้วางใจ เหล็กรูปพรรณมีหลากหลายประเภท ทั้งเหล็กเส้น เหล็กกล่อง เหล็กฉาก เหล็กแบน และเหล็กไวด์แฟรงค์ ซึ่งล้วนมีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์การใช้งานในงานโครงสร้างหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้างบ้าน อาคาร โรงงาน ไปจนถึงงานตกแต่ง และงานเชื่อมประกอบต่าง ๆ

นอกจากนี้ร้านขายเหล็กรูปพรรณบางแห่งยังมีบริการตัดเหล็กตามขนาดที่ลูกค้าต้องการ พร้อมจัดส่งถึงหน้างาน ช่วยประหยัดเวลา และลดความยุ่งยากในการซื้อเหล็กหลายครั้ง และที่ บริษัท หงยุ่นต๊ะ เหล็กรูปพรรณ จำกัด เป็นหนึ่งในร้านขายเหล็กรูปพรรณรายใหญ่ในย่านพระราม 2 ที่ได้รับความไว้วางใจจากช่างมืออาชีพมาอย่างต่อเนื่อง

 

จุดเด่นของร้านขายเหล็กรูปพรรณที่ช่างมืออาชีพไว้วางใจ

  1. คุณภาพเหล็กได้มาตรฐาน: ร้านขายเหล็กรูปพรรณที่ดีต้องมีเหล็กผ่านมาตรฐาน มอก. ทุกชิ้น เพื่อให้มั่นใจในความแข็งแรง และทนทาน เหล็กไม่บิดงอ หรือเป็นสนิมก่อนการใช้งาน ซึ่งสำคัญต่อความปลอดภัยของโครงสร้าง
  2. สินค้าหลากหลาย ครบวงจร: มีเหล็กรูปพรรณหลายประเภท เช่น H-Beam, I-Beam, เหล็กกล่อง, เหล็กฉาก, ท่อเหล็ก ฯลฯ ขนาด และความหนาหลากหลาย ช่างสามารถเลือกให้ตรงกับงานโดยไม่ต้องปรับแก้
  3. บริการจัดส่ง: มีระบบขนส่งที่ครอบคลุม ตรงเวลา และปลอดภัย รองรับทั้งงานโครงการใหญ่ และงานทั่วไป
  4. ราคาโปร่งใส สมเหตุสมผล: ราคาอัปเดตตามตลาด และไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง ลูกค้าสามารถเปรียบเทียบราคา และวางแผนงบประมาณได้อย่างชัดเจน
  5. ทีมงานให้คำปรึกษา: มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำการเลือกเหล็ก ช่วยให้ช่าง และเจ้าของโครงการเลือกชนิด และขนาดเหล็กที่เหมาะสมกับงาน ลดความเสี่ยงในการซื้อผิด หรือเลือกวัสดุไม่ตรงสเปกงาน

 

เหล็กรูปพรรณยอดนิยมที่ร้านขายเหล็กมักมีให้บริการ

  1. H-Beam และ I-Beam: เหล็ก H-Beam และ I-Beam เป็นเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน มีลักษณะคล้ายตัวอักษร H และ I ในภาษาอังกฤษตามลำดับ มีความแข็งแรงสูง สามารถรับน้ำหนักและแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม จึงนิยมใช้ในงานโครงสร้างหลักของอาคารขนาดใหญ่ เช่น เสา คาน หรือรางเครนในโรงงานอุตสาหกรรม
    H-Beam and I-Beam

 

  1. C-Channel (เหล็กตัวซี): เหล็กตัวซี หรือ C-Channel มีหน้าตัดเป็นรูปตัว C เป็นเหล็กโครงสร้างที่นิยมใช้ในงานก่อสร้างทั่วไป มีน้ำหนักไม่มากแต่ยังคงความแข็งแรงไว้ได้ดี เหมาะสำหรับทำโครงสร้างหลังคา แปหลังคา หรือเสาค้ำยันที่ไม่ต้องรับน้ำหนักมาก รวมถึงงานดัดแปลง และงานตกแต่งต่าง ๆ
    C-Channel

 

  1. เหล็กกล่อง: เหล็กกล่องมีทั้งแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัส และสี่เหลี่ยมผืนผ้า ใช้ในงานโครงสร้างทั่วไป งานเฟอร์นิเจอร์ หรืองานตกแต่งต่าง ๆ จุดเด่นคือมีความแข็งแรง น้ำหนักไม่มาก และสามารถเชื่อมเข้ากับวัสดุอื่น ๆ ได้ง่าย เหมาะกับทั้งงานโครงสร้างเบา และงานออกแบบ
    Square steel

 

  1. เหล็กฉาก: เหล็กฉากมีลักษณะเป็นมุมฉาก 90 องศา ใช้ในการเสริมความแข็งแรงของโครงสร้าง หรือตกแต่งในงานประกอบเฟอร์นิเจอร์ และโครงงานเหล็กต่าง ๆ ด้วยรูปทรงที่ง่ายต่อการเชื่อมต่อ จึงถูกเลือกใช้ในงานที่ต้องการความแข็งแรง และความทนทานในจุดเสริม
    Angle iron

 

  1. เหล็กแบน: เหล็กแบนเป็นเหล็กรูปพรรณที่มีหน้าตัดเป็นเส้นแบนตรง นิยมใช้ในงานเชื่อมประกอบ งานเสริมโครงสร้าง และการผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักรต่าง ๆ ด้วยความเรียบตรง และน้ำหนักที่เหมาะสม ทำให้ใช้งานง่าย และดัดแปลงได้หลากหลายรูปแบบ
    flat iron

 

  1. ท่อเหล็กกลม: ท่อเหล็กกลม หรือที่เรียกกันว่าแป๊บกลม เป็นเหล็กที่มีหน้าตัดกลม และกลวงด้านใน มีคุณสมบัติในการรับแรงได้ดีทั้งแรงลม และแรงดัน นิยมใช้ในงานที่หลากหลาย ตั้งแต่งานโครงสร้าง เช่น นั่งร้าน โครงถัก ไปจนถึงงานระบบท่อประปา ท่อร้อยสายไฟ
    Round steel pipe

 

นึกถึงเหล็ก นึกถึงหงยุ่นต๊ะ ร้านขายเหล็กพระราม 2

จุดเด่นของหงยุ่นต๊ะ ร้านขายเหล็กพระราม 2 คือความครบครันของสินค้า และบริการ เรามีเหล็กรูปพรรณหลากหลายชนิด เช่น เหล็กเส้น เหล็กแผ่นดำ ขาว เทา เหล็กท่อ เหล็กโครงสร้าง เหล็กรางน้ำ เหล็กแป๊บแบนดำ และกัลวาไนซ์ รวมถึงวัสดุก่อสร้างเสริม เช่น พุกเหล็ก และตะแกรงเหล็กฉีก สินค้าของเราทุกชิ้นมีมาตรฐาน มอก. รับรอง เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพ และความปลอดภัย

นอกจากนี้ เรายังมีบริการตัดเหล็กตามขนาดที่ลูกค้าต้องการ และเจาะรูเหล็กตามแบบที่ลูกค้าออกแบบเอง บริการนี้ช่วยประหยัดเวลา และลดความซับซ้อนในการผลิต ลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่าสินค้าที่ได้รับตรงตามความต้องการ และพร้อมใช้งานทันที

 

บทสรุป

ร้านขายเหล็กรูปพรรณ แหล่งรวมวัสดุคุณภาพที่จะช่วยให้งานโครงสร้างมีความแข็งแรง ปลอดภัย และคุ้มค่า การเลือกซื้อจากร้านที่มีมาตรฐาน มีสินค้าให้เลือกครบวงจร และให้บริการที่มืออาชีพจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ที่หงยุ่นต๊ะ ร้านขายเหล็กพระราม 2 เรามองว่าเหล็กทุกชิ้นที่ขายไปคือส่วนหนึ่งของโครงการลูกค้า ดังนั้นคุณภาพ และบริการต้องดีที่สุด และเรายังคำนึงถึงความสะดวกในการสั่งซื้อ ลูกค้าสามารถติดต่อเราได้หลายช่องทาง ทั้งทางโทรศัพท์ มือถือ อีเมล หรือเข้ามาที่ร้านโดยตรง ทีมงานของเราพร้อมตอบคำถาม และให้คำแนะนำทันที

สนใจสั่งซื้อเหล็ก ติดต่อสอบถามราคา หรือติดต่องานรับเหมาโครงสร้าง ได้ที่

โทรศัพท์: 02 898 6638, 084 694 9989

Facebook: HTST จำหน่ายเหล็ก

Line: htst88

Email: hongjuntar@gmail.com

ร้านหงยุ่นต๊ะ เหล็กรูปพรรณ จำกัด ร้านขายเหล็กพระราม 2 ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2560 โดยมีที่ตั้งอยู่ที่ 118 ถนนพระราม 2 ซอย 48 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร ดำเนินธุรกิจจำหน่ายเหล็กรูปพรรณหลากหลายประเภท ตั้งแต่เหล็กเส้น เหล็กแผ่น เหล็กท่อ เหล็กโครงสร้าง ไปจนถึงเหล็กตัวซี-เหล็กรางน้ำ และอุปกรณ์ก่อสร้างต่าง ๆ มีบริการตัดเหล็กตามขนาดที่ลูกค้าต้องการ และบริการจัดส่งสินค้าถึงไซต์งานอย่างรวดเร็วปลอดภัยด้วยทีมงานมากประสบการณ์

วันนี้หงยุ่นต๊ะร้านขายเหล็กพระราม 2 จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับชนิดของเหล็กที่จำหน่ายในร้าน พร้อมลักษณะงานที่นิยมใช้ และคำแนะนำพื้นฐานในการเลือกซื้อเหล็กให้เหมาะกับงานก่อสร้างต่าง ๆ

ความสำคัญของการเลือกร้านขายเหล็กที่ได้มาตรฐาน

  • คุณภาพและมาตรฐาน: เราตระหนักดีว่าคุณภาพ และมาตรฐานมีความสำคัญแค่ไหน เราจึงคัดสรรเหล็กที่ได้คุณภาพตามมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่าโครงสร้างของท่านจะแข็งแรง และปลอดภัยตามหลักวิศวกรรม
  • ความหลากหลายของสินค้า: เรามีเหล็กหลากหลายประเภท เพื่อตอบสนองทุกความต้องการในงานก่อสร้าง และอุตสาหกรรม สามารถจบทุกความต้องการเรื่องเหล็กได้ในที่เดียว ประหยัดทั้งเวลา และค่าใช้จ่าย
  • ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ: ทีมงานที่มีความรู้ และประสบการณ์ เราพร้อมให้คำแนะนำ เพื่อให้ท่านได้เหล็กที่ตรงกับวัตถุประสงค์การใช้งาน และคุ้มค่ากับงบประมาณมากที่สุด
  • บริการที่ครบวงจร: มีบริการตัดเหล็กตามขนาดที่ต้องการ เพื่อช่วยลดภาระหน้างาน และบริการจัดส่งที่รวดเร็ว ตรงต่อเวลา ปลอดภัยด้วยมาตรการแพคเหล็กที่เรียบร้อย

เจาะลึกประเภทเหล็กที่ “หงยุ่นต๊ะ” ร้านขายเหล็กพระราม 2

ร้านหงยุ่นต๊ะจำหน่ายเหล็กรูปพรรณแทบทุกชนิด โดยเหล็กแต่ละประเภทก็มีคุณสมบัติ และงานที่เหมาะสมแตกต่างกันไป ตัวอย่างประเภทเหล็กหลักที่นิยมมีดังนี้

  1. โครงสร้างเหล็กรูปพรรณ (Structural Steel)
    คือ เหล็กที่ถูกนำมาแปรรูปเป็นรูปหน้าตัดต่าง ๆ เพื่อใช้ในงานโครงสร้าง เช่น เสา คาน ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นคือมีความแข็งแรงสูง สามารถรับน้ำหนักได้ดี และมีความยืดหยุ่น ทำให้เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมก่อสร้าง
    • เหล็กเอชบีม (H-Beam): มีหน้าตัดเป็นรูปตัว H สมมาตร ปีก (Flange) ทั้งสองข้างจะมีความกว้างเท่ากัน และขนานกันตลอดความยาว มีความสามารถในการรับน้ำหนักได้ดีเยี่ยม นิยมใช้เป็นเสา (Columns) และคาน (Beams) ในโครงสร้างอาคารขนาดใหญ่ โรงงานอุตสาหกรรม โกดังสินค้า หรือโครงสร้างสะพานที่ต้องการการรับน้ำหนักสูง
    • เหล็กไอบีม (I-Beam): มีหน้าตัดคล้ายรูปตัว I ปีกบน และปีกล่างจะมีความลาดเอียงเข้าหาแกนกลาง (Tapered Flanges) นิยมใช้กับงานเครน หรืออุปกรณ์อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เนื่องจากปีกมีความหนากว่าเหล็กเอชบีม (H-Beam)
    • เหล็กฉาก (Angle Bar): มีหน้าตัดเป็นรูปตัว L หรือเป็นมุมฉาก นิยมใช้ทำโครงสร้าง รองรับน้ำหนัก เช่น ทำเสา คานชั้นวางของ โครงรางราว รวมถึงงานป้ายโครงเหล็กหรือคานรับน้ำหนักต่าง ๆ
    • เหล็กรางน้ำ (Channel): มีหน้าตัดเป็นรูปตัว U หรือตัว C มีปีกสองข้างยื่นออกมาในทิศทางเดียวกัน เหมาะสำหรับงานที่รับน้ำหนักไม่มากนัก แต่ต้องการความแข็งแรงในการพาดหรือยึดเกาะ
  1. เหล็กรูปพรรณสำหรับงานโครงสร้างทั่วไป (General Structural Steel)
    เป็นกลุ่มเหล็กที่ถูกนำไปใช้งานอย่างแพร่หลายที่สุด สามารถพบเห็นได้ในงานก่อสร้างแทบทุกประเภท ตั้งแต่บ้านพักอาศัยไปจนถึงงานเฟอร์นิเจอร์ และงานตกแต่ง
    • เหล็กกล่อง (Square/Rectangular Tube): เป็นเหล็กที่มีหน้าตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส (Square Tube) หรือสี่เหลี่ยมผืนผ้า (Rectangular Tube) ด้านในกลวง นิยมใช้ในการทำโครงสร้างรองรับน้ำหนักไม่มาก เช่น โครงหลังคาบ้าน ระบบโครงสร้างหลังคา หรือโครงสร้างทั่วไป
    • เหล็กท่อกลม (Round Tube): เหล็กรูปทรงกลมเปล่า ทั้งเกรด A และ B โดยทั่วไปใช้ในงานต่อเติมโครงสร้างทั่วไป ที่ไม่ต้องรับน้ำหนักมากนัก
  1. เหล็กเส้นสำหรับงานคอนกรีตเสริมเหล็ก (Reinforcing Bar – Rebar)
    เหล็กกลุ่มนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในงานโครงสร้างคอนกรีต ทำหน้าที่รับแรงดึง (Tensile Strength) ซึ่งเป็นจุดอ่อนของคอนกรีต ทำให้โครงสร้างมีความสามารถในการรับแรงได้ทั้งแรงกด และแรงดึง
    • เหล็กเส้นกลม (Round Bar – RB): มีลักษณะเป็นเส้นกลมยาว ผิวเรียบ ไม่มีบั้งหรือปล้อง มีความหนาตั้งแต่ 6– 25 มิลลิเมตร ซึ่งมีความยาว 10 เมตร เป็นแบบขนาดพับครึ่ง นิยมนำไปใช้เป็นเหล็กเสริมคอนกรีตในงานก่อสร้างอาคาร
    • เหล็กข้ออ้อย (Deformed Bar – DB): เป็นเหล็กเส้นที่มีบั้ง (Lugs) และครีบ (Ribs) อยู่บนผิวตลอดความยาว (เหมือนอ้อย) เพื่อให้ยึดเกาะกับคอนกรีตได้ดี ความยาวมีทั้งแบบ 10 เมตร และ 12 เมตร
  1. เหล็กแผ่น (Steel Plate) เป็นเหล็กที่ผ่านกระบวนการรีดให้เป็นแผ่นบาง มีความหนาหลากหลาย เหมาะสำหรับงานที่ต้องการพื้นผิว หรือใช้เป็นชิ้นส่วนประกอบ
    • เหล็กแผ่นดำ: เป็นแผ่นเหล็กผิวเรียบ มีสีเทาดำ ซึ่งเป็นผลมาจากกระบวนการผลิตแบบรีดร้อน ใช้ในงานปูพื้น ผนัง หรือเป็นชิ้นส่วนประกอบในเครื่องจักรต่าง ๆ
    • เหล็กแผ่นลาย: เป็นเหล็กแผ่นที่มีการปั๊มลวดลายนูนขึ้นมาบนผิว เพื่อช่วยในการกันลื่น ลายที่พบบ่อยคือลายตีนเป็ดหรือตีนไก่ นิยมใช้ปูพื้นบันได พื้นรถกระบะ พื้นรถบรรทุก หรือพื้นที่ที่มีน้ำหรือน้ำมันหกเลอะ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน

คำแนะนำเบื้องต้นในการเลือกซื้อเหล็ก

  1. ตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐาน มอก.: เลือกซื้อเหล็กที่มีสัญลักษณ์ มอก. เป็นเครื่องหมายรับรองคุณภาพว่าเหล็กมีขนาด และคุณสมบัติที่ถูกต้องตามมาตรฐาน เพื่อให้มั่นใจว่าเหล็กมีคุณภาพแข็งแรง ทนทานต่อการใช้งานระยะยาว
  2. เลือกประเภทเหล็กให้เหมาะกับงาน: การเลือกใช้เหล็กต้องพิจารณาตามลักษณะงาน เช่น เหล็กเส้นสำหรับคอนกรีตเสริมเหล็ก เหล็กกล่องสำหรับโครงสร้างเบา หรือ H-Beam/I-Beam สำหรับงานอาคารสูงและสะพาน เพื่อให้โครงสร้างปลอดภัยและประหยัดค่าใช้จ่าย
  3. คำนวณขนาดและปริมาณ: ควรมีแบบแปลนหรือปรึกษาวิศวกรเพื่อเลือกหน้าตัด ความหนา และความยาวของเหล็กให้ตรงตามงาน พร้อมเผื่อปริมาณเล็กน้อยสำหรับการตัดหรือการติดตั้งจริง ลดปัญหาเหล็กขาดหรือสูญเปล่าหน้างาน
  4. เลือกร้านขายเหล็กที่น่าเชื่อถือ: ควรซื้อจากร้านค้าที่มีความเชี่ยวชาญ สามารถให้คำแนะนำที่ถูกต้องได้ มีหน้าร้านชัดเจน และจำหน่ายเหล็กคุณภาพที่มีมาตรฐาน

 

เหล็กแต่ละประเภทที่เราหงยุ่นต๊ะ ร้านขายเหล็กพระราม 2 จำหน่าย ไม่ว่าจะเป็นเหล็กเส้น เหล็กรูปพรรณ เหล็กแผ่น หรือวัสดุเสริมต่าง ๆ ล้วนมีบทบาทสำคัญต่อการก่อสร้างและงานโครงสร้างทุกระดับ ความหลากหลายของเหล็กเหล่านี้ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้งานได้ตรงตามความต้องการ

สนใจเหล็กรูปพรรณ เหล็กแผ่น หรือวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างต่าง ๆ สามารถแวะมาได้ที่ หงยุ่นต๊ะ ร้านขายเหล็กพระราม 2 หรือโทรศัพท์สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหล็กได้เลย บริการรวดเร็ว จัดส่งตรงเวลา ครบจบในที่เดียว “เหล็กคุณภาพ เหล็กหงยุ่นต๊ะ ร้านขายเหล็กพระราม 2”

 

คำถามที่พบบ่อย

  1. ร้านหงยุ่นต๊ะจำหน่ายเหล็กประเภทใดบ้าง?
    หงยุ่นต๊ะจำหน่ายเหล็กทุกประเภท ทั้งเหล็กเส้น, เหล็กกล่อง, เหล็กฉาก, H-Beam, I-Beam, เหล็กรางน้ำ, เหล็กแผ่น, ท่อเหล็ก และวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างต่าง ๆ ครบวงจร
  1. สามารถสั่งตัดเหล็กตามขนาดได้หรือไม่?
    มีบริการตัดเหล็กตามขนาดที่ลูกค้าต้องการ จากเหล็กม้วนคุณภาพดี ได้มาตรฐาน บริการจัดส่งสินค้าถึงที่ รวดเร็ว ปลอดภัยด้วยมาตรการแพคเหล็กที่เรียบร้อย
  1. เหล็กเอชบีม (H-Beam) และเหล็กไอบีม (I-Beam) ใช้กับงานแบบไหน?
    ใช้ในงาน โครงสร้างอาคารสูง, โรงงาน, สะพาน หรือโครงสร้างขนาดใหญ่ ที่ต้องรับแรงมาก
  1. ติดต่อหงยุ่นต๊ะ ร้านขายเหล็กพระราม 2 ได้ช่องทางไหนบ้าง?
    ได้ทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น เบอร์โทรศัพท์: 02 898 6638 Email: hongjuntar@gmail.com แอดไลน์: htst88 หงยุ่นต๊ะ ยินดีให้บริการ

เหล็กแผ่นเป็นวัสดุโลหะแผ่นแบนที่มีความหนาตั้งแต่ 0.005 ถึง 0.01 นิ้ว เหล็กแผ่นมักทำจากเหล็กกล้าคาร์บอน ซึ่งหมายถึงเหล็กกล้าที่มีส่วนผสมของคาร์บอนเล็กน้อย สามารถใช้ในหลากหลายวัตถุประสงค์ รวมถึงการก่อสร้าง ยานยนต์ เครื่องจักรกล และเฟอร์นิเจอร์ จึงเป็นวัสดุก่อสร้างที่ได้รับความนิยมและมีประโยชน์หลากหลาย มีจำหน่ายในหลากหลายขนาดและรูปร่าง รวมถึงแผ่น ม้วน และลอน เหล็กแผ่นสามารถเคลือบด้วยสารต่างๆ เพื่อปรับปรุงคุณสมบัติ เช่น ความต้านทานการกัดกร่อน ความร้อน และเสียง เหล็กแผ่นเป็นวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน ราคาไม่แพง นำกลับมาใช้ใหม่ได้ ตัด ดัด และเชื่อมได้ง่าย และน้ำหนักเบา

ต่อไปนี้คือประโยชน์บางประการของการใช้เหล็กแผ่น:

  • แข็งแรง: เหล็กแผ่นมีความแข็งแรงมาก สามารถรองรับน้ำหนักได้มาก
  • ทนทาน: เหล็กแผ่นทนทานต่อสภาวะแวดล้อม เช่น ลม ฝน และหิมะ
  • ราคาไม่แพง: เหล็กแผ่นมีราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับวัสดุก่อสร้างอื่นๆ เช่น คอนกรีตและไม้
  • นำกลับมาใช้ใหม่ได้: เหล็กแผ่นสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ 100% ทำให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • ตัด ดัด และเชื่อมได้ง่าย: เหล็กแผ่นสามารถตัด ดัด และเชื่อมได้ง่าย ทำให้เหมาะสำหรับงานก่อสร้างหลากหลายประเภท
  • น้ำหนักเบา: เหล็กแผ่นมีน้ำหนักเบากว่าวัสดุก่อสร้างอื่นๆ เช่น คอนกรีต ทำให้สามารถขนส่งและติดตั้งได้ง่าย

บริษัท หงยุ่นต๊ะ เหล็กรูปพรรณ จำกัด เป็นผู้ค้าส่งเหล็กรายใหญ่ในกรุงเทพมหานคร ดำเนินธุรกิจจำหน่ายเหล็กรูปพรรณทุกประเภท จำหน่ายเหล็กแผ่นตัดตามขนาด พระรามสอง เหล็กเส้น เหล็กแผ่น เหล็กท่อ เหล็กโครงสร้าง เหล็กหลังคา เหล็กรางน้ำ รวมถึงวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง พุกเหล็ก ตะแกรงเหล็กฉีก สีป้องกันสนิม มีบริการตัดเหล็กตามขนาดที่ลูกค้าต้องการ จากเหล็กม้วนคุณภาพดี ได้มาตรฐาน บริการจัดส่งสินค้าถึงที่ รวดเร็ว ปลอดภัยด้วยมาตรการแพคเหล็กที่แน่นหนา เรียบร้อย  ด้วยทีมงานมากประสบการณ์ ชำนาญเส้นทางและพื้นที่ เพื่อให้สินค้าถึงมือลูกค้าอย่างรวดเร็วและปลอดภัย

เหล็กเป็นวัสดุก่อสร้างที่สำคัญที่ใช้ในงานโครงสร้างมาหลายศตวรรษแล้ว เหล็กมีความแข็งแรง ทนทาน และน้ำหนักเบา ทำให้เป็นวัสดุก่อสร้างที่เหมาะสำหรับโครงสร้างขนาดใหญ่ เหล็กยังสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ทำให้เป็นวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ต่อไปนี้คือความสำคัญของเหล็กในงานโครงสร้าง:

  • ความแข็งแรง :เหล็กเป็นวัสดุที่แข็งแรงมาก ทำให้สามารถรองรับน้ำหนักของอาคารและโครงสร้างขนาดใหญ่ได้
  • ทนทาน :เหล็กมีความทนทานต่อสภาวะแวดล้อม เช่น ลม ฝน และหิมะ ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนานหลายสิบปี
  • น้ำหนักเบา :เหล็กมีน้ำหนักเบากว่าวัสดุก่อสร้างอื่นๆ เช่น คอนกรีต ทำให้สามารถก่อสร้างอาคารและโครงสร้างได้เร็วขึ้นและประหยัดค่าใช้จ่าย
  • นำกลับมาใช้ใหม่ได้ :เหล็กสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ 100% ทำให้เป็นวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • ติดตั้งง่าย :เหล็กสามารถติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็ว ทำให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้าง
  • บำรุงรักษาต่ำ : เหล็กต้องการการบำรุงรักษาต่ำ ทำให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน

ดังนั้นการเลือกเหล็กโครงสร้างที่เหมาะสมสำหรับโครงการของคุณจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่าโครงสร้างของคุณจะปลอดภัยและทนทาน ปัจจัยบางประการที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกเหล็กโครงสร้าง ได้แก่

  • ประเภทของโครงสร้าง:ประเภทของโครงสร้างที่คุณกำลังสร้างจะกำหนดประเภทของเหล็กโครงสร้างที่คุณต้องการ ตัวอย่างเช่น อาคารสูงต้องการเหล็กโครงสร้างที่มีความแข็งแรงมากกว่าอาคารขนาดเล็ก
  • ขนาดของโครงสร้าง:ขนาดของโครงสร้างของคุณจะกำหนดปริมาณเหล็กโครงสร้างที่คุณต้องการ ตัวอย่างเช่น อาคารขนาดใหญ่ต้องการเหล็กโครงสร้างมากกว่าอาคารขนาดเล็ก
  • สภาพอากาศ:สภาพอากาศในพื้นที่ของคุณจะกำหนดประเภทของเหล็กโครงสร้างที่คุณต้องการ ตัวอย่างเช่น อาคารในพื้นที่ที่มีหิมะตกมากต้องการเหล็กโครงสร้างที่ทนต่อการกัดกร่อนได้ดีกว่าอาคารในพื้นที่ที่อบอุ่น
  • งบประมาณของคุณ:ค่าใช้จ่ายของเหล็กโครงสร้างจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภท ขนาด และสภาพอากาศในพื้นที่ของคุณ สิ่งสำคัญคือต้องเลือกเหล็กโครงสร้างที่มีคุณภาพเหมาะสมกับงบประมาณของคุณ

เมื่อพิจารณาปัจจัยเหล่านี้แล้ว คุณจะสามารถเลือกเหล็กโครงสร้างที่เหมาะสมสำหรับโครงการของคุณได้ บริษัท หงยุ่นต๊ะ เหล็กรูปพรรณ จำกัด เป็นผู้ค้าส่งเหล็กรายใหญ่ในกรุงเทพมหานคร ร้านขายเหล็กโครงสร้าง พระรามสอง ดำเนินธุรกิจจำหน่ายเหล็กรูปพรรณทุกประเภท เหล็กเส้น เหล็กแผ่น เหล็กท่อ เหล็กโครงสร้าง เหล็กหลังคา เหล็กรางน้ำ รวมถึงวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง พุกเหล็ก ตะแกรงเหล็กฉีก สีป้องกันสนิม มีบริการตัดเหล็กตามขนาดที่ลูกค้าต้องการ จากเหล็กม้วนคุณภาพดี ได้มาตรฐาน บริการจัดส่งสินค้าถึงที่ รวดเร็ว ปลอดภัยด้วยมาตรการแพคเหล็กที่แน่นหนา เรียบร้อย  ด้วยทีมงานมากประสบการณ์ ชำนาญเส้นทางและพื้นที่ เพื่อให้สินค้าถึงมือลูกค้าอย่างรวดเร็วและปลอดภัย

เหล็กรูปพรรณงานโครงสร้าง 2 ร้านขายเหล็ก ร้านขายเหล็กแผ่น ร้านขายเหล็กรูปพรรณ โรงงานผลิตเหล็กโครงสร้าง บริการตัดเหล็กตามขนาด บริการเจาะรูเหล็กแผ่นตามขนาด จำหน่ายเหล็กกัลวาไนซ์ และดำ ร้านขายเหล็กโครงสร้าง จำหน่ายเหล็กแผ่นตัดตามขนาด จำหน่ายเหล็กแผ่นดำ ขาว ซิ้งค์

เหล็กรูปพรรณงานโครงสร้าง 3 ร้านขายเหล็ก ร้านขายเหล็กแผ่น ร้านขายเหล็กรูปพรรณ โรงงานผลิตเหล็กโครงสร้าง บริการตัดเหล็กตามขนาด บริการเจาะรูเหล็กแผ่นตามขนาด จำหน่ายเหล็กกัลวาไนซ์ และดำ ร้านขายเหล็กโครงสร้าง จำหน่ายเหล็กแผ่นตัดตามขนาด จำหน่ายเหล็กแผ่นดำ ขาว ซิ้งค์

 

 

 

เหล็กรูปพรรณเป็นเหล็กที่ผ่านการรีดร้อนหรือรีดเย็นเพื่อให้ได้รูปร่างต่างๆ เช่น เหล็กรูปตัว I, H, L, C และ U เหล็กรูปพรรณใช้ในงานก่อสร้างเพื่อรองรับน้ำหนักของโครงสร้าง

เหล็กรูปพรรณมีหลากหลายประเภท ได้แก่

  • เหล็ก I-beam: เหล็ก I-beam เป็นชิ้นส่วนเหล็กรูปตัว I ใช้ในงานก่อสร้าง มีลักษณะเป็นคานเหล็กรูปตัว I มีสัน (web) อยู่ตรงกลางและปีก (flange) อยู่ด้านข้าง สันและปีกมีหน้าตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เหล็กไอบีมผลิตจากเหล็กกล้าหรือเหล็กกล้าไร้สนิม มักใช้ในงานก่อสร้างอาคาร สะพาน ทางรถไฟ และอื่นๆเหล็ก H-beam: เหล็ก H-beam เป็นเหล็กรูปพรรณที่มีรูปร่างคล้ายตัว H เหล็ก H-beam แข็งแรงและทนทาน มักใช้ในงานก่อสร้างอาคารและสะพาน
  • เหล็ก L-beam หรือเหล็กฉาก เป็นเหล็กรูปพรรณที่มีรูปร่างคล้ายตัวอักษร L มักใช้ในงานก่อสร้างเพื่อรองรับน้ำหนักของอาคารและโครงสร้างต่างๆ เหล็ก L บีมทำจากเหล็กกล้าคุณภาพสูง ทนทานต่อแรงดึงและแรงบิดได้ดี มีอายุการใช้งานยาวนาน เหล็ก L บีมมีให้เลือกหลายขนาดและหลายเกรด สามารถเลือกได้ตามความต้องการใช้งาน
  • เหล็ก C-beam: เป็นเหล็กรูปตัว C ที่มีลักษณะโค้งงอด้านหนึ่ง ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับน้ำหนักและแรงกด เหล็ก C บีมมักใช้ในงานก่อสร้าง เช่น โครงหลังคา โครงพื้น โครงเสา และโครงสะพาน เหล็ก C บีมยังใช้ในงานอุตสาหกรรม เช่น โครงสร้างเครื่องจักร โครงสร้างโรงงาน และโครงสร้างโกดังเหล็ก U-beam: เหล็ก U-beam เป็นเหล็กรูปพรรณที่มีรูปร่างคล้ายตัว U เหล็ก U-beam แข็งแรงและทนทาน มักใช้ในงานก่อสร้างอาคารและสะพาน
  • เหล็ก H บีม (H-Beam) เป็นเหล็กรูปพรรณที่มีหน้าตัดเป็นรูปตัว H มีลักษณะเด่นคือ มีหน้าตัดเป็นรูปตัว H คล้ายกับตัวอักษร H เหล็ก H บีมผลิตจากเหล็กกล้าคาร์บอนหรือเหล็กกล้าไร้สนิม โดยกระบวนการรีดร้อน (Hot-Rolled) หรือกระบวนการรีดเย็น (Cold-Rolled) เหล็ก H บีมเป็นเหล็กรูปพรรณที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการก่อสร้างอาคาร เนื่องจากมีความแข็งแรง ทนทาน และสามารถรับน้ำหนักได้มาก เหล็ก H บีมมักถูกใช้เป็นเสาและคานในอาคารต่างๆ เช่น อาคารสำนักงาน อาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม โกดังสินค้า เป็นต้น เหล็ก H บีมยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย เช่น ใช้เป็นโครงหลังคา โครงสะพาน และโครงเครื่องจักร เป็นต้น
  • เหล็ก U บีม (U-beam) หรือเหล็กรางน้ำ เป็นเหล็กรูปพรรณที่มีรูปร่างคล้ายตัว U มักใช้ในงานก่อสร้าง เช่น โครงหลังคา โครงพื้น โครงคาน และอื่นๆ เหล็ก U บีมทำจากเหล็กกล้าคาร์บอนหรือเหล็กกล้าไร้สนิม มีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทาน และน้ำหนักเบา จึงนิยมนำมาใช้ในงานก่อสร้างต่างๆ

เหล็กรูปพรรณแต่ละประเภทมีจุดแข็งและจุดอ่อนที่แตกต่างกัน การเลือกประเภทของเหล็กรูปพรรณที่เหมาะสมสำหรับโครงการของคุณขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ประเภทของโครงสร้าง น้ำหนักที่โครงสร้างต้องรับ สภาพแวดล้อมที่โครงสร้างจะตั้งอยู่ และงบประมาณของคุณ

บริษัท หงยุ่นต๊ะ เหล็กรูปพรรณ จำกัด เป็นผู้ค้าส่งเหล็กรายใหญ่ในกรุงเทพมหานคร ดำเนินธุรกิจจำหน่ายเหล็กรูปพรรณทุกประเภท จำหน่ายเหล็กแผ่นดำ ขาว ซิ้งค์ พระรามสอง เหล็กเส้น เหล็กแผ่น เหล็กท่อ เหล็กโครงสร้าง เหล็กหลังคา เหล็กรางน้ำ รวมถึงวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง พุกเหล็ก ตะแกรงเหล็กฉีก สีป้องกันสนิม มีบริการตัดเหล็กตามขนาดที่ลูกค้าต้องการ จากเหล็กม้วนคุณภาพดี ได้มาตรฐาน บริการจัดส่งสินค้าถึงที่ รวดเร็ว ปลอดภัยด้วยมาตรการแพคเหล็กที่แน่นหนา เรียบร้อย  ด้วยทีมงานมากประสบการณ์ ชำนาญเส้นทางและพื้นที่ เพื่อให้สินค้าถึงมือลูกค้าอย่างรวดเร็วและปลอดภัย